กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าวัคซีนอีสุกอีใสถูกเพิ่มเข้าไปในปฏิทินการฉีดวัคซีนในวัยเด็กหลังจากวัคซีนตับอักเสบเอ
ในคำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าจำนวนโรคที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 13 โรคเมื่อเพิ่มโรคอีสุกอีใสในปฏิทินการฉีดวัคซีนในวัยเด็ก
ในแถลงการณ์ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนมีการชี้ให้เห็นดังต่อไปนี้: "จุดประสงค์ของโครงการขยายภูมิคุ้มกันโรคซึ่งดำเนินการในประเทศของเราคือการรักษาโรคคอตีบไอกรนบาดทะยักหัดหัดเยอรมันคางทูม , วัณโรค, โปลิโอ, ไวรัสตับอักเสบบี, ฮีโมฟิลัสไข้หวัดใหญ่ชนิดบี, ไวรัสตับอักเสบเอ, อีสุกอีใสจุดมุ่งหมายคือเพื่อควบคุมหรือกำจัดโรคเหล่านี้โดยการลดการแพร่กระจายความพิการและอัตราการตายของโรคที่เกี่ยวข้องและโรคนิวโมคอคคัสที่แพร่กระจาย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ได้มีการพัฒนาที่สำคัญในด้านการบริการด้านการป้องกันและการดูแลสุขภาพเบื้องต้นด้วยโครงการ Health Transformation และการศึกษาเกี่ยวกับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคเป็นประจำได้กลายเป็นประเด็นหนึ่งที่กระทรวงของเราให้ความสำคัญสูงสุด "
ในแถลงการณ์ซึ่งระบุว่าอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ระดับ 96-97 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ปี 2550 พบว่าความสำเร็จนี้ทำให้จำนวนโรคที่สามารถป้องกันได้ในประเทศลดลงอย่างมาก
มีการแจ้งเตือนว่างบประมาณการฉีดวัคซีนซึ่งอยู่ที่ 22 ล้าน TL ในปี 2545 ถึงประมาณ 400 ล้าน TL ในปี 2555 และการฉีดวัคซีนให้ฟรีในทุกสถาบันสุขภาพ
- อีสุกอีใสคืออะไร?
ในแถลงการณ์ระบุว่าแม้ว่า 90% ของโรคอีสุกอีใสจะพบได้ในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นโรคในวัยเด็กที่มีอาการไม่รุนแรง แต่ก็อาจรุนแรงโดยเฉพาะในทารกและผู้ใหญ่ .
บางครั้งโรคนี้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงเช่นการติดเชื้อที่ผิวหนังอย่างรุนแรงแผลเป็นถาวรบนผิวหนังปอดบวมสมองอักเสบและถึงขั้นเสียชีวิตได้วัคซีนช่วยลดจำนวนผู้ป่วยลง 85% และป้องกันโรคอีสุกอีใสรุนแรงได้ 95-100% รายงาน.
วัคซีนอีสุกอีใสมีความสำคัญในการป้องกันโรคงูสวัดงูสวัด (โรคไหม้ตอนกลางคืน) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หลายปีหลังจากเกิดโรค
เด็กทุกคนในเดือนที่ 12 จะได้รับวัคซีนฟรี 1 เข็มและจะมอบให้กับเด็กทุกคนที่เกิดหลังวันที่ 1 มกราคม 2555