ทุกวันนี้ความหลงลืมกลายเป็นเรื่องร้องเรียนที่มีทั้งคนหนุ่มสาววัยกลางคนและผู้สูงอายุ การใช้โทรศัพท์มือถือมากเกินไปการใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นการทำงานหนักและความเครียดจากการจราจรการรับประทานอาหารที่ไม่สมดุลทำให้ปัญหานี้เพิ่มขึ้นทุกวัน
การหลงลืมทุกครั้งไม่สามารถถือได้ว่าเป็นโรคเว้นแต่จะส่งผลเสียต่อชีวิตมนุษย์ อาการที่สำคัญคือความวุ่นวายในการทำงานและชีวิตครอบครัวของบุคคลนั้นและคำเตือนจากสภาพแวดล้อมของเขา / เธอเนื่องจากความหลงลืม การลืมชื่อคนที่พบเจอบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันลืมหรือเสียที่ตั้งของใช้ส่วนตัวเผาอาหารที่เตาไฟลืมกุญแจขณะออกไปข้างนอกมีปัญหาในการหาคำศัพท์ขณะพูดจดจำและทวนประสบการณ์ในอดีตให้บ่อยและดีขึ้น อาจเป็นอาการหลงลืม
แม้ว่าภาวะสมองเสื่อม (dementia) โดยทั่วไปจะถูกมองว่าเทียบเท่ากับโรคอัลไซเมอร์ในสังคม แต่อัลไซเมอร์เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มย่อยของโรคสมองเสื่อมและไม่สามารถประเมินอาการหลงลืมได้ว่าเป็นอัลไซเมอร์ นอกเหนือจากนั้นอะไรเป็นสาเหตุของการหลงลืม?
ในบรรดาสาเหตุของการหลงลืม;
- โรคบางอย่างที่ทำลายระบบประสาทส่วนกลาง (เช่นพาร์กินสัน)
- บาดเจ็บที่ศีรษะ
- ปัจจัยทางจิตใจเช่นความเครียดภาวะซึมเศร้าโรควิตกกังวล
- หมกมุ่นอยู่กับอุปกรณ์เทคโนโลยีมากเกินไป
- กินไม่สม่ำเสมอ
- การขาดวิตามินเช่นวิตามินบี 12 และวิตามินดี
- ความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์
- โรคเรื้อรังร่วมกัน
- ความผิดปกติของการนอนหลับ
- สุราและยาเสพติดเป็นต้น นับได้
การดำเนินชีวิตอย่างสม่ำเสมอการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพการนอนหลับที่ดีอยู่ห่างจากแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่รักษาความสัมพันธ์ทางสังคมให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอการเล่นกีฬาเป็นมาตรการที่ง่ายที่สุดที่เราสามารถทำได้เพื่อให้ความจำแข็งแรง
นอกจากนี้; โทรศัพท์มือถือเครื่องมือสื่อสารโซเชียลโซเชียลมีเดีย ฯลฯ การไม่ใช้เวลาอยู่ในไร่นามากเกินไปกินน้ำปริมาณมากแก้ปัญหาขี้เกียจเล่นเกมเพิ่มความจำพยายามจดจำเพลงบทกวีหมายเลขโทรศัพท์และการเรียนรู้ภาษาใหม่จะช่วยให้ความทรงจำของเรามีชีวิตอยู่ได้
สุดท้ายอย่าลืมว่าเมื่อเรารู้สึกว่าเราเริ่มมีปัญหาในชีวิตประจำวันเนื่องจากความหลงลืมเราจำเป็นต้องพบกับนักประสาทวิทยา